สำหรับคนที่สนใจจะเป็นแอร์โฮสเตส สจ๊วต นักบิน คงรู้จักข้อสอบ TOEIC เป็นอย่างดี เพราะต้องนำผลคะแนนมาใช้สมัครงาน แต่นอกจากงานสายการบินแล้ว องค์กรและบริษัทหลายๆ แห่งก็ใช้ TOEIC ในการประเมินความสามารถภาษาอังกฤษทั้งของผู้สมัครงานและพนักงานในองค์กร ไปดูกันดีกว่าว่า TOEIC คืออะไร และมีแนวทางการสอบอย่างไร
TOEIC คืออะไร?
TOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication เป็นข้อสอบสำหรับวัดระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษทั่วไป องค์กรและบริษัทชั้นนำส่วนใหญ่มักต้องการผลคะแนนสอบนี้ในการประเมินระดับภาษาอังกฤษของผู้สมัครงาน เพราะง่าย รวดเร็ว และมีมาตรฐาน ซึ่งสายงานที่ขาดผลคะแนน TOEIC ไม่ได้คือสายงานด้านการท่องเที่ยว เช่น การบิน การโรงแรม รวมไปถึงสายงานที่ต้องติดต่อสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษในการทำงาน
ผลสอบ TOEIC นอกจากใช้ประเมินความสามารถก่อนเข้าทำงานแล้ว หลายๆ องค์กรยังมีค่าความสามารถด้านภาษาให้ตามคะแนนอีกด้วย มักตั้งไว้ที่ 550-650 คะแนนขึ้นไป ส่วนสายงานที่เกี่ยวกับการบินมักจะอยู่ที่ 800 คะแนนขึ้นไป ซึ่งค่าสมัครสอบ TOEIC มีราคาถูกกว่าการสอบวัดผลทางภาษาอังกฤษแบบอื่น คือ 1,500 บาท ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก โดยคะแนนผลสอบ TOEIC จะใช้ได้ 2 ปีนับจากวันที่สอบ
การสมัครสอบ TOEIC
การสมัครสอบ TOEIC มีขั้นตอนการสมัครที่ไม่ยุ่งยาก เพราะสามารถสมัครสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันทำการ ทั้งไปสมัครด้วยตนเองที่ สำนักงาน CPA (Thailand) หรือโทรติดต่อที่เบอร์ 02-260-7061 หรือ 02-259-3990 สำหรับสาขากรุงเทพฯ และ 053-241-273, 053-241-274, 053-241-275 สำหรับสาขาเชียงใหม่ ในวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 8:00 น. ถึง 16:30 น. โดยข้อมูลที่ต้องแจ้งหน้าที่มี ชื่อ นามสกุล แบบสะกดเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น หมายเลขบัตรประจำตัวบัตรประชาชน วันที่และเวลาที่ต้องการสอบ และเบอร์โทรติดต่อ
การสอบ TOEIC เปิดสอบวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยจัดสอบวันละ 2 รอบ คือรอบเช้า 9:00 น. ถึง 12:00 น. และรอบบ่าย คือ 13:00 น. ถึง 16:00 น. ซึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมในวันสอบคือบัตรประจำตัวประชาชน หรือใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทางที่ไม่หมดอายุ พร้อมเงินชำระค่าสมัครสอบจำนวน 1,500 บาท
การจัดสอบมีการจัดเตรียมสิ่งช่วยเหลือสำหรับผู้ที่มีความต้องการพิเศษ เช่น ผู้บกพร่องทางสายตาหรือผู้บกพร่องทางการได้ยิน จะมีการเตรียมแบบทดสอบเป็นอักษรเบลล์ หรือเครื่องช่วยฟังไว้ให้ ซึ่งต้องแจ้งล่วงหน้า
แนวทางการสอบ TOEIC
ข้อสอบ TOEIC มีทั้งหมด 200 ข้อ แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ การอ่าน 100 ข้อ 495 คะแนน ทดสอบการฟัง 100 ข้อ 495 คะแนน ทั้งสองส่วนแยกย่อยออกได้อีกตามเนื้อหา ดังนี้
1.การฟัง (Listening) ใช้เวลา 45 นาที
- ข้อ 1-10 Photographs – จะมีรูปภาพมาให้เป็นตัวเลือก a b c d ข้อสอบจะให้เลือกรูปภาพให้ตรงกับคำอธิบายที่ได้ยิน
- ข้อ 11-40 Question-Response - ให้ฟังคำถามสั้นๆ แล้วเลือกคำตอบจากตัวเลือก
- ข้อ 41-70 Conversations - ให้ฟังบทสนทนา 1 บทสนทนา ต่อโจทย์ 3 ข้อ อ่านคำถามและเลือกคำตอบให้ตรงกับเนื้อหาของบทสนทนา
- ข้อ 71-100 Short Talks – ให้ฟังบทพูด 1 บท ต่อโจทย์ 3 ข้อ อ่านคำถามและเลือกคำตอบให้ตรงกับเนื้อหาบทพูด
2.การอ่าน (Reading) ใช้เวลา 75 นาที
- ข้อ 101 - 140 Incomplete Sentences – โจทย์เป็นประโยคที่มีเว้นที่ว่างไว้ ให้เลือกเติมคำตอบที่ถูกต้องจากตัวเลือก
- ข้อ 141 - 152 Text Completion - โจทย์เป็น Paragraph สั้นๆ มีเว้นที่ว่างไว้ 3 จุด คือจุดละข้อ ให้เลือกเติมคำตอบที่ถูกต้องจากตัวเลือก
- ข้อ 153 - 180 Reading Comprehension Part 1 – ให้อ่านบทความ 1 บทความ ต่อโจทย์ประมาณ 3-4 ข้อ แล้วเลือกคำตอบจากตัวเลือก เป็นการวัดความเข้าใจเนื้อหาและคำศัพท์
- ข้อ 181 - 200 Reading Comprehension Part 2 – ให้อ่านบทความ 2 บทความประกอบกัน ต่อโจทย์ประมาณ 3-4 ข้อ แล้วเลือกคำตอบจากตัวเลือก เป็นการวัดความเข้าใจเนื้อหาและคำศัพท์
การสอบ TOEIC เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัพเกรดเรซูเม่ให้ดูดียิ่งขึ้น ยิ่งได้คะแนนสอบสูง ผู้จ้างงานที่สัมภาษณ์ก็จะยิ่งสนใจเรซูเม่ของเรา เพราะเป็นการวัดผลทางภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐาน แต่นอกจากใช้สมัครงานแล้ว หากองค์กรมีนโยบายให้เงินค่าความสามารถทางภาษา ก็จะได้เงินส่วนนี้เพิ่มมาจากเงินเดือนด้วย ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำงานหลายๆ อย่างทีเดียว