IELTS คืออะไร? มีแนวทางการสอบอย่างไร?

IELTS คืออะไร? มีแนวทางการสอบอย่างไร?

สำหรับผู้ที่ต้องการไปเรียนต่อ ทำงาน หรือโยกย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือผลสอบ IELTS เพราะจะเป็นตัวช่วยประเมินระดับภาษาและจำเป็นในการสมัครขอวีซ่าเพื่อเป็นพลเมือง รวมถึงการสมัครทำงานและเรียนต่อ เนื่องจากเป็นข้อสอบที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับในหลายๆ ประเทศทั่วโลก

IELTS คืออะไร?

IELTS ย่อมาจาก International English Language Testing System คือข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ โดยจะทดสอบ 4 ทักษะ คือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งการทดสอบทักษะที่ถือได้ว่าเป็นการทดสอบที่ดีที่สุดคือการพูด เพราะจะได้สนทนาภาษาอังกฤษกับอาจารย์ผู้คุมสอบที่ได้รับรองความสามารถมาแล้ว การทดสอบทักษะจะจัดการฟัง การอ่าน และการเขียนไว้ทดสอบในวันเดียวกัน ส่วนการพูดอาจสอบในวันเดียวกันช่วงบ่าย หรือวันอื่นภายในระยะเวลา 7 วันก่อนหรือหลังวันสอบหลัก

ข้อสอบ IELTS มีมาตรฐานมาก ได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินภาษาอังกฤษที่ได้รับความไว้ใจจากทั่วโลก ทำให้เป็นที่ยอมรับจากองค์กรกว่า 8,000 แห่ง รวมถึงเป็นผลสอบเดียวที่กองตรวจคนเข้าเมืองในหลายๆ ประเทศยอมรับ โดยผลคะแนนสอบจะแบ่งได้เป็น 9 ระดับ ตั้งแต่ระดับที่ 1-9 ทำให้ประเมินความสามารถผู้สอบได้ชัดเจน ผลสอบ IELTS สามารถใช้เพื่อยื่นศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกในต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ และใช้เพื่อการสมัครงานหรือฝึกอบรมในต่างประเทศ

การสมัครสอบ IELTS

การสอบสามารถเลือกได้ว่าจะสอบกับคอมพิวเตอร์ หรือสอบแบบกระดาษ ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้

1. การสอบแบบคอมพิวเตอร์

เราสามารถทำแบบทดสอบผ่านคอมพิวเตอร์ได้ ทั้งการทดสอบทักษะการฟัง การอ่าน และการเขียน มีเพียงทักษะการพูดเท่านั้นที่ยังต้องทดสอบกับอาจารย์เพราะจะได้ประสิทธิภาพมากกว่า

การสอบแบบคอมพิวเตอร์จะทำให้เลือกวันที่สอบ และสถานที่สอบได้หลากหลายมากขึ้น และทราบผลสอบภายใน 5-7 วัน ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ของข้อสอบยังเหมือนการสอบแบบกระดาษทุกประการ

2. การสอบแบบกระดาษ

เป็นการสอบแบบกระดาษ ทั้งทักษะการฟัง การอ่าน และการเขียน ส่วนการสอบพูดนั้นต้องทดสอบกับอาจารย์ ซึ่งการสอบแบบกระดาษมีการเตรียมการสำหรับผู้ที่มีความต้องการพิเศษให้ด้วย เช่น ผู้ที่มีความผิดปกติทางสายตา ผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน ผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน โดยต้องส่งใบรับรองแพทย์ที่ออกไว้ไม่เกิน 2 ปี และแจ้งล่วงหน้ามากกว่า 3 เดือนเพื่อเตรียมความพร้อมของสถานที่

สิ่งที่ต้องเตรียมในการสมัครสอบ คือ สำเนาหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชนไทย โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่ออัพโหลดเข้าระบบตอนสมัครออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://my.ieltsessentials.com และนำเอกสารฉบับจริงไปแสดงตนในวันที่สอบ ซึ่งขั้นตอนการสมัครออนไลน์มีดังนี้

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://my.ieltsessentials.com

2. เลือกชนิดของการสอบ โดยการสอบแต่ละแบบจะมีค่าสอบ และจุดประสงค์ในการสอบที่แตกต่างกัน

  • IELTS Academic หรือ General training ค่าสอบ 6,900 บาท เป็นข้อสอบเพื่อยื่นสำหรับการศึกษาต่อหรือฝึกอบรม
  • IELTS for UKVI Academic และ UKVI General Training ค่าสอบ  9,009 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ยื่นใบสมัครขอวีซ่าเพื่อศึกษาต่อและโยกย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศอังกฤษ
  • IELTS Life Skills A1 และ B1 ค่าสอบ 6,757 บาท เป็นข้อสอบเพื่อวัดระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับการยื่นสมัครวีซ่าคู่หมั้น คู่สมรส ครอบครัว หรือยื่นวีซ่าเป็นพลเมืองของประเทศอังกฤษ

3. เลือกวันและสถานที่สอบ

4. กรอกรายละเอียดใบสมัคร และอัพโหลดเอกสารคือสำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง ซึ่งต้องนำเอกสารจริงไปในวันสอบจริงด้วย

5. ยืนยันรายละเอียดการสมัครสอบ

6. ชำระเงินค่าสมัครสอบ จากนั้นตรวจสอบอีเมลเพื่อยืนยันความถูกต้องของการสมัครสอบ

แนวทางการสอบ IELTS

ในการสอบจะมีการทดสอบทั้งหมด 4 ทักษะ ดังนี้

1.การฟัง (Listening) ใช้เวลา 30 นาที

ในการทดสอบทักษะนี้ จะมีบทสนทนา และบทพูดให้ฟังเพื่อจับใจความสำคัญและตอบคำถามภายในเวลาที่กำหนด วิธีการเตรียมตัวต้องฝึกฟังเยอะๆ โดยเฉพาะฟังจากคลิปข่าว และฝึกทำข้อสอบจากข้อสอบเก่า

2.การอ่าน (Reading) ใช้เวลา 60 นาที

การทดสอบทักษะการอ่าน จะมีบทความให้ทั้งหมด 3 บทความ ไม่เจาะจงแนวเรื่อง ต้องอ่านจับใจความและทำข้อสอบ 40 ข้อ การเตรียมตัวต้องอ่านบทความจากหลายแห่ง ทั้งข่าว นิตยสาร และท่องจำศัพท์ให้ได้มากที่สุด รวมทั้งฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาเพื่อให้อ่านใจความสำคัญได้รวดเร็ว

3.การเขียน (Writing) ใช้เวลา 60 นาที

การเขียนจะมี 2 โจทย์ โดยโจทย์แรกต้องเขียนอธิบายข้อมูลที่กำหนดมาให้อย่างน้อย 150 คำ โจทย์ที่สองเขียนเรียงความทางการอย่างน้อย 250 คำ วิธีการเตรียมตัวต้องฝึกเขียนอธิบายเป็นย่อหน้าให้ได้ และการเขียนเรียงความต้องฝึกวางโครงเรื่อง และต้องมีความแม่นยำในด้านไวยากรณ์

4.การพูด (Speaking) ใช้เวลา 11-14 นาที

การพูด ต้องพูด 3 แบบ คือ พูดเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน พูดตอบคำถามตามบัตรคำถาม และพูดโต้ตอบกัน วิธีการเตรียมตัวควรฝึกพูดแล้วอัดเสียงฟังข้อบกพร่องของตนเอง และหาคู่ฝึกพูด

ผลคะแนนสอบ IELTS เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในใบเบิกทางสำหรับการเรียนต่อ การทำงาน และการย้ายถิ่นฐานไปเป็นพลเมืองของต่างประเทศ ดังนั้นใครที่มีเป้าหมายดังที่กล่าวมา ควรสมัครติว IELTS เพื่อที่จะได้ทราบแนวทางการทำข้อสอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และดีกว่าการฝึกฝนด้วยตนเองเพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำและสอนเคล็ดลับต่างๆ

Top

รายชื่อธุรกิจมาใหม่