Inbound Marketing คืออะไร? สำคัญต่อการทำการตลาดอย่างไร?

Inbound Marketing ถือเป็นการตลาดแบบใหม่ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ด้วยตนเอง แถมยังสะดวกและรวดเร็ว การตลาดแบบนี้เป็นการใช้อินเทอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์ และเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าเดิม เพื่อให้ผู้คนในโลกออนไลน์กลายมาเป็นลูกค้านั่นเอง

Inbound Marketing คืออะไร?

ก่อนจะมารู้จัก Inbound Marketing เราต้องเกริ่นถึง Outbound Marketing ที่เป็นการตลาดที่มีมาก่อน ซึ่ง Outbound Marketing นั้นหมายถึงการตลาดแบบผลัก (Push) คือ การตลาดที่มีแบรนด์เป็นศูนย์กลาง (Brand-Centric) และแบรนด์สามารถส่งคอนเทนต์อะไรก็ได้ออกไปสื่อสารถึงลูกค้า เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว ยกตัวอย่างคือ โฆษณาตามรายการโทรทัศน์ วิทยุ บิลบอร์ด รวมถึงแบนเนอร์ การยิงโฆษณาในโซเชียลมีเดีย เป็นต้น

ส่วน Inbound Marketing นั้นหมายถึงการตลาดแบบแรงดึงดูด คือ การตลาดที่ดึงดูดลูกค้าเข้ามาหา (Pull) เนื่องจากในโลกยุคอินเทอร์เน็ต คอนเทนต์มีจำนวนมากมายมหาศาล และลูกค้าสามารถเลือกได้เองว่าจะเสพคอนเทนต์อะไร ดังนั้นผู้ที่จะทำ Inbound Marketing จึงต้องสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ โดยคำนึงถึงสิ่งที่ลูกค้าอยากฟัง นับเป็นการตลาดแบบมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) และเป็นการสื่อสารสองทางเพราะลูกค้าสามารถโต้ตอบกับคอนเทนต์ของเราได้ เช่น โพสต์ใน Facebook, Instagram เว็บไซต์หรือบล็อกต่างๆ ไม่ว่าจะในรูปแบบวิดีโอ ภาพ หรือบทความ

ขั้นตอนการทำ Inbound Marketing

การทำ Inbound Marketing มีกระบวนการทำงานที่ดึงดูดคนแปลกหน้าซึ่งไม่รู้จักแบรนด์จนกลายมาเป็นผู้บอกต่อแบรนด์ของเราได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. Attract

ขั้นตอนนี้คือการดึงดูด คนแปลกหน้า (Stranger) ที่ไม่รู้จักแบรนด์ ให้เริ่มสนใจคอนเทนต์ของเราและกลายเป็น ผู้เยี่ยมชม (Visitor) โดยต้องใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ เพื่อเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกต้อง เช่น Facebook, Instagram, Twitter รวมถึงการทำ SEO ที่จะทำให้คอนเทนต์ของเราขึ้นเป็นอันดับแรกๆ ใน Search Engine อย่าง Google

2. Convert

ขั้นตอนนี้คือการเปลี่ยน ผู้เยี่ยมชม (Visitor) ให้เป็น ว่าที่ลูกค้า (Lead) โดยชี้นำให้มีปฏิกิริยาโต้ตอบคอนเทนต์ของเรา เช่น คลิกดูรายละเอียด สมัครสมาชิก หรือให้ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ โดยอาจมีสิ่งดึงดูดใจเป็นการตอบแทน เช่น ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ฟรี เป็นต้น โดยขั้นตอนนี้สามารถใช้ Call To Action ให้เป็นประโยชน์ได้

3. Close

ขั้นตอนนี้คือการเปลี่ยน ว่าที่ลูกค้า (Lead) ให้เป็น ลูกค้า (Customer) ของเรา โดยจากขั้นตอนที่แล้ว เราอาจมีข้อมูลของลูกค้าจากการสมัครสมาชิก เช่น อีเมล เราสามารถมอบข้อเสนอสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ เช่น ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษ เพื่อให้เขาสนใจเป็นลูกค้าของเราในที่สุด

4. Delight

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย เป็นการดูแลลูกค้าของเราพึงพอใจและอยากกลับมาซื้อสินค้า รวมถึงนำสินค้าของเราไปบอกต่อคนอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ ลูกค้า (Customer) กลายเป็น ผู้บอกต่อ (Promoter) ไปในที่สุด และการตลาดแบบปากต่อปากนับเป็นการตลาดที่ดีที่สุดแบบหนึ่งทีเดียว

ความสำคัญของ Inbound Marketing

1.ลูกค้าได้รับการตอบกลับที่รวดเร็ว

ปัจจุบัน ความรวดเร็วเป็นเรื่องสำคัญมากในการตลาด เพราะลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลาย หากเราทำให้ไม่พึงพอใจ ลูกค้าก็เปลี่ยนไปซื้อสินค้าหรือบริการของเจ้าอื่นได้ทันที ดังนั้นหากลูกค้าสนใจ หรือมีคำถามอะไรเกี่ยวกับคอนเทนต์ หรือ สินค้าและบริการของเรา เราสามารถตอบลูกค้าได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการคอมเม้นตอบ หรือสื่อสารในช่องแชทโดยตรง

2.เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า

การตลาดแบบ Outbound Marketing เปรียบเสมือนการหว่านแห ยกตัวอย่าง โฆษณาทางโทรทัศน์ คนที่ดูโทรทัศน์มีทุกเพศทุกวัย เราอาจเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ยาก ขณะที่ Inbound Marketing จะดึงดูดลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเข้ามาเอง เพราะถ้าเรามีนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของเรา และตรงกับที่ลูกค้าต้องการข้อมูลอยู่พอดี ก็จะได้ลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย

3.ลดค่าใช้จ่าย

การทำ Inbound Marketing เป็นการใช้อินเทอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาไปได้มาก เนื่องจากคอนเทนต์ที่ดีจะดึงดูดคนเข้ามาหาด้วยตัวเอง และสามารถประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขได้อีกด้วย

Inbound Marketing เป็นการตลาดที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้ดีมาก และยังทำให้ลูกค้าเกิดความผูกพันกับแบรนด์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การทำการตลาดแบบดึงดูดนี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องค่อยๆ ทำคอนเทนต์ที่สร้างคุณค่าอย่างสม่ำเสมอ แต่ผลตอบลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าแน่นอน