Conversion (CV) คืออะไร? สำคัญต่อการทำการตลาดออนไลน์อย่างไร?

การทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ดังนั้นถ้ามีเครื่องมือที่ช่วยวัดผลลัพธ์ว่าโฆษณา หรือการตลาดที่เราทำนั้นได้ผลหรือไม่ก็จะช่วยให้วางแผนพัฒนาการตลาดต่อไปได้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง Conversion (CV) เป็นตัวช่วยอย่างมากสำหรับการตลาดออนไลน์

Conversion (CV) คืออะไร?

Conversion (CV) หมายถึง ยอดขายที่เกิดขึ้นจริงในธุรกิจ และสำหรับการตลาดออนไลน์ หมายถึง กลุ่มเป้าหมายที่ตอบสนองต่อสนองต่อโฆษณา หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการคลิกเข้ามาดู การกดถูกใจ การสมัครสมาชิก หรือการสั่งซื้อ เป็นตัน

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเลือกทำโฆษณาแบบ Google Ads (AdWords) ตัว Conversion ก็จะเป็นตัววัดนั่นเองว่าการทำโฆษณาแบบนี้มีผลลัพธ์อย่างไร มีคนคลิกโฆษณาของเรากี่ครั้งแล้วมีการกระทำอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ เช่น กดสั่งซื้อสินค้า หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ซึ่งเราสามารถวัดได้โดยติด Tracking Code ของ Google ในเว็บไซต์ของเรา

Conversion Rate (CVR) คืออะไร?

Conversion Rate (CVR) คือ สัดส่วนของผู้ที่ทำการตอบสนองต่อโฆษณา หรือยอดผู้ซื้อจริง แล้วแต่การกำหนด เพราะธุรกิจแต่ละแบบมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน กับจำนวนคนทั้งหมดในช่วงเวลาหนึ่ง โดยมักคำนวณเป็นเปอร์เซนต์

ยกตัวอย่างเช่น

• มีลูกค้าเข้าร้านเรา 1,000 คน มีคนซื้อสินค้าเรา 100 คน CVR คือ 10% (100×100/1,000)
• มีคนเห็นโพสต์บน Facebook 5,000 คน มีคนกดไลค์ 1,000 คน CVR คือ 20% (1,000×100/5,000)
• มีคนคลิกโฆษณา Google AdWords 500 ครั้ง มีคนสั่งซื้อสินค้าเรา 30 ออเดอร์ CVR คือ 6% (30×100/500)

ความสำคัญของ Conversion

สำหรับการตลาดออนไลน์ Conversion มีความสำคัญมากในการวัดผล เพื่อให้ทราบว่าการทำโฆษณานั้นบรรลุเป้าหมายหรือไม่ โดยเฉพาะการทำ Google Ads (AdWords) ซึ่งแต่ละครั้ง จำนวน Conversion ก็อาจมีการกำหนดไม่เหมือนกัน เช่น จำนวนการสั่งซื้อสินค้า จำนวนยอดสมัครสมาชิก เป็นต้น ถ้ามี CVR มาก ก็แปลว่าการทำโฆษณาได้ผล ถ้ามี CVR น้อย ก็อาจแปลได้ว่าโฆษณานั้นล้มเหลว เมื่อทราบผลลัพธ์เป็นตัวเลขแน่ชัด ก็จะทำให้เราพัฒนาการตลาดต่อไปได้

แนวทางการเพิ่ม Conversion ในการตลาดออนไลน์

• ภาพสินค้าหรือภาพประกอบต้องมีความสวยงาม ชัดเจน ถ้าภาพไม่ชัด มองยากว่าต้องการสื่ออะไร หรือไม่สวยงาม ลูกค้าก็จะเลื่อนผ่านโฆษณาของเราไปอย่างง่ายดาย
• ข้อความต้องอ่านง่าย นอกจากภาพแล้ว คอนเทนต์ที่เป็นข้อความต้องกระชับ อ่านเข้าใจง่ายและดึงดูดความสนใจ
• มีความน่าเชื่อถือ เช่น มีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเรามารับรองว่าใช้ดีจริง มีข้อมูลการทดสอบหรืองานวิจัย จะเพิ่มความน่าเชื่อถือ และเพิ่มความสนใจให้คนอยากเข้ามาดูข้อมูล หรือซื้อสินค้าของเรา
• ใส่ปุ่ม Call To Action ในหน้าเว็บไซต์ แต่อย่าเยอะเกินไป โดยปุ่ม Call To Action มีไว้เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้งานคลิกสมัครสมาชิก หรือกดสั่งซื้อ เป็นต้น (อ่านเพิ่มเติม…)
• ใช้เวลาเป็นตัวกระตุ้นการซื้อ เพราะมีผลต่อการตัดสินใจสำหรับคนที่ยังลังเลอยู่ให้ตัดสินใจง่ายขึ้น เช่น ส่งฟรีถ้าสั่งซื้อภายในสามวันนี้เท่านั้น
• มี Live Chat ลูกค้าจะมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ของเรามากขึ้น เพราะได้ข้อมูลจากแบรนด์โดยตรงและรวดเร็ว หากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามได้ทันที นำไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด
• มีการกรอกแบบฟอร์มสั้นๆ โดยแบบฟอร์มส่วนใหญ่จะให้กรอกเพียงชื่อและอีเมล ซึ่งที่นิยมใช้อีเมลนั้นเพราะว่าลูกค้าจะรู้สึกสะดวกใจมากกว่าการต้องให้แอคเคาท์โซเชียลมีเดียอื่นๆ หรือเบอร์โทร นอกจากนี้การเก็บอีเมลยังสามารถนำไปใช้ทำ Email Marketing ได้อีกด้วย (อ่านเพิ่มเติม…)
• ทดลองและปรับเปลี่ยนโฆษณาโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นตัวข้อความหรือรูปภาพโฆษณา เป้าหมายในการยิงโฆษณา เพื่อดูว่าแบบไหนได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

การเพิ่ม Conversion ให้ได้ตามเป้าหมายนั้น อาจต้องผ่านการลองผิดลองถูกหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเราก็จะได้ข้อมูลจากการทดลองว่าการตลาดแบบนี้ได้ผลหรือไม่ ถ้าไม่ได้ผล เราก็อาจต้องเลือกวิธีอื่น ทำให้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีเป้าหมายในการทำการตลาดที่ชัดเจนมากขึ้น จนประสบความสำเร็จในที่สุด